ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้บูชาด้วย อักกมนทายกเถราปทานที่ 5 (455)ว่าด้วยผลแห่งการเหยียบนวด[45] เราได้ถวายการเหยียบแด่พระ- พุทธเจ้าพระนามว่ากุสันธะ ผู้เป็นนักปราชญ์ มีบาปอันลอยเสียแล้ว ทรงอยู่จบพรหมจรรย์ ซึ่ง กำลังเสด็จดำเนินไปสู่ที่พักกลางวัน ในกัปนี้เองเราได้ถวายทานใดในกาลนั้น ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง การถวายการเหยียบ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน ของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้ ทราบว่า ท่านพระอักกมนทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล จบอักกมนทายกเถราปทาน
วนโกรัณฑิยเถรปทานที่ 6 (456)ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกหางช้าง[46] เราถือดอกหางช้างป่ามาบูชา พระผู้มี พระภาค พุทธเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ ประเสริฐสุดกว่าโลก ผู้คงที่ ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้เราได้เอาดอกไม้ใด บูชา ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็น ผลแห่งพุทธบูชา เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน ของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระวนโกรัณฑิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล. จบวนโกรัณฑิยเถราปทาน จบภาณวารที่ 20เอกฉัตติยจเถราปทานที่ 7 (457)ว่าด้วยผลแห่งการกั้นร่มถวายพระพุทธเจ้า[47 ] แผ่นดินร้อนดังเพลิง แผ่นดิน ดุจมีเถ้ารึงไหล พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ เสด็จจงกรมอยู่ที่กลางแจ้ง เรากั้นร่มขาวเดินทางไปได้เห็นพระสัม- พุทธเจ้าเข้าที่กลางแจ้งนั้น แล้วเกิดควานคิดขึ้นว่า |